เริ่มจะยุ่งหน่อยละครับ ไอ้กาแฟตัวนี้มันดัง
จริงๆเพราะชื่อมันมาจาก(เมืองแขกขาว) และ อิตาลี ต้องมีการตีฟอง
นมสดพาสเจอร์ไล้ท เป็นเรื่องที่ยากหมั่กๆ ในการหัดตีฟองนม หัดกันจนนมหมดไป
หลายลิตรก็ไม่ได้เรื่องซักที เพราะต้องตีให้นมเป็นฟองละเอียดระดับไมโครโฟม
ตอนนี้เอาเป็นว่าตีฟองนมได้ก่อนก็แล้วกัน เอาพิชเชอรตัวนี้มาใช้ต้องแช่ไว้ในตู้เย็น
หรือถังน้ำแข็งให้เย็นจัด และ นมสดที่เราเลือกใช้คือนมเมจิ ต้องแช่ไว้ให้เย็นเช่นกัน
เพราะมีผลที่จะตีฟองนมได้ละเอียด ตามหลักวิธี
จริงๆเพราะชื่อมันมาจาก(เมืองแขกขาว) และ อิตาลี ต้องมีการตีฟอง
นมสดพาสเจอร์ไล้ท เป็นเรื่องที่ยากหมั่กๆ ในการหัดตีฟองนม หัดกันจนนมหมดไป
หลายลิตรก็ไม่ได้เรื่องซักที เพราะต้องตีให้นมเป็นฟองละเอียดระดับไมโครโฟม
ตอนนี้เอาเป็นว่าตีฟองนมได้ก่อนก็แล้วกัน เอาพิชเชอรตัวนี้มาใช้ต้องแช่ไว้ในตู้เย็น
หรือถังน้ำแข็งให้เย็นจัด และ นมสดที่เราเลือกใช้คือนมเมจิ ต้องแช่ไว้ให้เย็นเช่นกัน
เพราะมีผลที่จะตีฟองนมได้ละเอียด ตามหลักวิธี
เอานมพาสเจอร์ไล้ทประมาณ 2 ออนซ์ลงไปในพิชเชอร์ เปิดงวงตีฟองนมจากเครื่องชง จะมีแรงลมลมไอน้ำเป่าออกมา มากน้อยที่เราต้องซ้อมด้วยมือตัวเอง เครื่องใครเครื่องมัน
และก็ต้องจับมือกันสอนถึงจะได้ เสร็จแล้วเอามาใส่ในแก้วขนาด 5 ออนซ์
ชงกาแฟมา 1 ช๊อต 2 ออนซ์ หรือ "เอสเพรสโซ่"
นั่นแหละ มาเติมลงไปให้มองดูสวย แยกเป็นชั้นนม -กาแฟ-ฟองนมลอยอยู่บนสุด
ไม่ต่ำกว่า 5 มิลล แล้วโรยด้วย..ผงชีนาม่อน(ผงอบเชยนี่แหละ)ยกเสิร์ฟ
ฝรั่งเค้าก็กินแบบนี้ค่อยจิบไปไม่คน แต่คนไทยยังเติมน้ำตาล คนจนเละหมดแล้วจึงกิน
สำหรับคนคุยอยู่นี่ไม่กิน เพราะเหม็นนมสด แถมไม่ชอบกลิ่นอบเชยอีกต่างหาก อิ อิ..
และก็ต้องจับมือกันสอนถึงจะได้ เสร็จแล้วเอามาใส่ในแก้วขนาด 5 ออนซ์
ชงกาแฟมา 1 ช๊อต 2 ออนซ์ หรือ "เอสเพรสโซ่"
นั่นแหละ มาเติมลงไปให้มองดูสวย แยกเป็นชั้นนม -กาแฟ-ฟองนมลอยอยู่บนสุด
ไม่ต่ำกว่า 5 มิลล แล้วโรยด้วย..ผงชีนาม่อน(ผงอบเชยนี่แหละ)ยกเสิร์ฟ
ฝรั่งเค้าก็กินแบบนี้ค่อยจิบไปไม่คน แต่คนไทยยังเติมน้ำตาล คนจนเละหมดแล้วจึงกิน
สำหรับคนคุยอยู่นี่ไม่กิน เพราะเหม็นนมสด แถมไม่ชอบกลิ่นอบเชยอีกต่างหาก อิ อิ..
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น